เมื่อเราวิเคราะห์จนตัดสินใจได้ว่าจะทำการซื้อ (Buy) หรือ ขาย (Sell) ในสินค้าหรือคู่เงินนั้นๆแล้ว การส่งคำสั่งซื้อขายใน MT4 ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญในการเทรด เราจำเป็นต้องรู้จักประเภทของออร์เดอร์แบบต่างๆที่เราสามารถส่งได้ใน MT4 เพื่อเสริมให้เรามีกลยุทธ์ในการเทรดที่หลากหลายมากขึ้นด้วย เทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยครับ
ประเภทของ Order ใน MT4 แบ่งออกเป็นหลักๆได้ 2 ประเภทดังนี้ครับ
1.Market Execution / Market Order คือ การส่งคำสั่งซื้อขายทันที ณ ราคาตลาด (Market Price) เวลานั้นๆเลย หากเป็น Buy Order ก็จะได้ราคาที่ Offer (Ask) เวลานั้น ส่วน Sell Order ก็จะได้ที่ราคา Bid ณ เวลานั้นทันที
2.Pending Order คือ การส่งคำสั่งว่าต้องการรอ (pending) เข้าซื้อขายที่ระดับราคาใดราคาหนึ่งๆที่ไม่ใช่ราคาตลาด เนื่องราคาตลาดตอนนี้ยังไม่ใช่จุดที่เหมาะสมในการเข้าตามกลยุทธ์ที่ออกแบบไว้ และเมื่อถึงเวลาที่ราคาตลาดขยับมาเท่ากับระดับราคาที่วางไว้ เราก็จะได้เข้าออร์เดอร์ตามที่วางแผนไว้ทันที โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา
สำหรับ Pending Order นั้นยังแบ่งออกเป็นหลักๆ ได้ 2 ประเภท คือ Stop Order และ Limit Order
Stop Order : (เบรคแล้วเข้า) ใช้ในกรณีที่ต้องการให้ราคาตลาดมีการ break ระดับราคาที่ต้องการเข้าออร์เดอร์
ตัวอย่าง Buy Stop – จากรูปด้านล่าง มีการส่งคำสั่ง Buy Stop ที่ราคาประมาณ1.09900 อาจด้วยมองว่าเป็นแนวต้านที่คาดว่าถ้ามีการเบรกระดับราคานี้ได้ อาจจะขึ้นต่อได้ เมื่อราคาถึงระดับราคาที่กำหนด สถานะออร์เดอร์จะเป็นจาก buy stop เป็น buy ตามภาพ
ตัวอย่าง Sell Stop – เมื่อราคามีการสร้างกรอบแนวรับที่ชัดเจน และวางแผนการเทรดว่าหากทะลุแนวรับที่ประมาณ 1.11250 จะทำการ sell จึงวาง Sell Stop ใต้แนวรับดังกล่าว และเมื่อราคาขยับลงแตะระดับราคาที่ตั้งไว้ สถานะ pending order จาก Sell Stop จะเปลี่ยนเป็น Sell ทันที
Limit Order : (ย่อแล้วเข้า) ใช้ในกรณีที่ต้องการให้ราคาตลาดมีย่อตัวกลับมาถึงระดับราคาใดที่ต้องการเข้าออร์เดอร์
ตัวอย่าง Buy Limit – จากภาพ ราคาป้จจุบันอยู่ด้านบน ประมาณ 1.10800 แต่วางแผนต้องการให้ที่จะเข้า ฺBuy ที่ระดับราคาด้านล่าง ประมาณ 1.10020 จึงส่งคำสั่ง Buy Limit ที่ระดับราคา 1.10020 และเมื่อราคาขยับร่วงลงมาจน ราคา Ask ถึง 1.10020 จึงได้เข้า Buy ที่ระดับราคาที่ตั้งไว้โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ
ตัวอย่าง Sell Limit – จากภาพกรอบสีเหลืองมองเป็นแนวรับ ที่ดูมีนัยยะ แต่ด้วยแผนการเทรดอาจจะมองว่าให้ราคาทะลุแนวรับนี้ก่อน แล้วค่อย Sell เมื่อราคาย้อนกลับขึ้นมาทดสอบแนวที่เพิ่งเบรกลงมานี้ จึงมีการวาง Sell Limit ที่ระดับประมาณ 1.13510 (แนวสีเหลือง) หลังจากที่ราคาทะลุแนวรับลงมาแล้วตามภาพ และเมื่อราคาย้อนขึ้นมาถึงระดับที่วางไว้ จึงเกิดออร์เดอร์ Sell ตามที่วางแผนไว้ทันที
แม้ว่า Pending Order แบบต่างๆที่เล่าให้ฟังนี้จะช่วยให้เราเทรดได้สะดวกแผนที่วางไว้โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ แต่ก็มีข้อจำกัด อย่างในกรณีที่ราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากๆเช่นช่วงที่มี Event สำคัญต่างๆ เราอาจไม่ได้ราคาตามที่เรากำหนดไว้นะครับ
อีกข้อจำกัดนึง คือ เราไม่สามารถวาง pending order โดยให้ใกล้กับราคาปัจจุบันได้มากนัก โดยแต่โบรกเกอร์จะมีกำหนดค่าที่เรียกว่า Stops Level ซึ่งคือระยะห่างอย่างน้อยกี่จุดที่ต้องห่างจากราคาตลาด ถึงจะยอมให้วาง pending order ได้ครับ
ในแต่ละคู่เงิน จะมี Stops Level ที่แตกต่างกัน เราสามารถดู Stops Level ของคู่เงินที่ต้องการเทรดในโบรกเกอร์ของเราใช้บริการได้ใน MT4 โดยเปิดหน้าต่าง Market Watch แล้วคลิ๊กขวาที่คู่เงินที่ต้องการ และเลือก Specification จะมีหน้าต่าง Contract Specification ของคู่เงินนั้นๆให้เราดู ซึ่งจะมีค่า Stops Level ในนั้นด้วย สามารถดูภาพประกอบด้านล่างได้ครับ
ถึงจุดนี้คิดว่าทุกคนจะเข้าใจประเภทของออร์เดอร์ทั้งหมดใน MT4 และสามารถนำไปใช้ให้เหมาะสมกับแผนการเทรดของตัวเองได้แล้วนะครับ หากคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากแชร์ต่อให้เป็นกำลังใจกันด้วยนะครับ
=====================================================
เปิดบัญชีเทรด : Exness
เปิดบัญชีเทรด : XM